ตำนานปีศาจแดง1999

ตำนานปีศาจแดง 1999 กับ “ทริปเปิ้ลแชมป์” ที่เต็มไปด้วยขวากหนาม (ตอน 1)

วงในบอลนอก

ตำนานปีศาจแดง 1999 กับ “ทริปเปิ้ลแชมป์” ที่เต็มไปด้วยขวากหนาม (ตอน 1)

ทุกสโมสรในโลกนั้น ล้วนมีโมเมนต์สำคัญให้สาวกรุ่นทายาทของพวกเขา ต่างได้เล่าขานเป็นตำนานสืบต่อกันมา อาทิเช่น ลิเวอร์พูล ก็มีตำนานแชมป์ยุโรป 5 สมัย (ปัจจุบัน 6), อาร์เซนอล เองก็มีแชมป์ไร้พ่ายของพวกเขา และหากไปถามแฟนบอลปีศาจแดงร้อยทั้งร้อย คงไม่มีใครไม่พูดถึงทีมชุด ‘ทริปเปิ้ลแชมป์’ เป็นแน่ ซึ่งแม้ในปีนั้นยูไนเต็ดจะเต็มไปด้วยนักเตะเก่ง ๆ มากมาย แต่หากสาวกที่ทันดูบอลในยุคนั้นจริง ๆ จะรู้ว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะประสบความสำเร็จในปีดังกล่าว และวันนี้ เราจะพาทุกท่านย้อนร้อยไปกับ ตำนานปีศาจแดง 1999 กับ ทริปเปิ้ลแชมป์ที่เต็มไปด้วยขวากหนาม

ตำนานปีศาจแดง 1999

‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ยักษ์ใหญ่เมืองแมนเชสเตอร์ ประกาศศักดาในปี 1999 ด้วยการกวาดแชมป์เรียบไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมไปถึง เอฟเอคัพ โดยปีศาจแดงปราชัยไปเพียง 5 นัดเท่านั้น จากทุกรายการและตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่ง 2 ใน 5 นัดนี้

ยังมี 1 นัดที่เป็นบอลถาดการกุศล และบอลลีก คัพ อีก 1 นัด พวกเขาทำสถิติไร้พ่ายยาวนานถึง 33 นัดต่อเนื่องในทุกรายการ ซึ่งก็คือนับตั้งแต่การแพ้ให้กับ มิดเดิ้ลสโบรห์ ในวันที่ 19 ธันวาคม 1998 พวกเขาก็ไม่แพ้ให้ใครอีกเลยเป็นระยะเวลาเกือบ 6 เดือนเต็ม โดยครึ่งฤดูกาลหลังในปี 1999 พวกเขาไม่แพ้เลยสักนัด

ตำนานปีศาจแดง 1999

ช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลนั้น ‘ไบรอัน แมคแคลร์’ และ ‘แกรี่ พัลลิสเตอร์’ สองนักเตะคู่บุญของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้จากทีมไปในช่วงโรยราของอาชีพ เฟอร์กี้จึงจำต้องจัดการถอยนักเตะใหม่ป้ายแดง อย่าง ‘ยาป สตัม’ จากพีเอสวี ด้วยค่าตัวสถิติโลกของตำแหน่งกองหลังในยุคนั้น และ ‘ดไวท์ ยอร์ค’ คู่หู่นิลกาฬของ ‘แอนดี้ โคล’

จากแอสตันวิลล่า และ ‘เจสเปอร์ บรอมควิสต์’ นักเตะแบคอัพของ ‘ไรอัน กิ๊กส์’ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เนือง ๆ ส่วน ‘ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล’ ยักษ์เดนส์ที่เป็นนายทวารให้กับทีมมายาวนานถึง 8 ปี ก็ได้ประกาศว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของเขากับปีศาจแดง

ตำนานปีศาจแดง 1999

ไม่น่าเชื่อว่า การเข้ามาของ ยาป สตัม ที่มาผนึกกำลังขันเกมรับคู่กับ ‘รอนนี่ ยอนเซ่น’ ขนาบข้างด้วย ‘เดนิส เออร์วิน’ แลพ ‘แกรี่ เนวิลล์’ จะยกระดับแผงหลังให้แกร่งดั่งหินผา และยังมี ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ยืนบัญชาเกมเป็นด่านสุดท้าย หนำซ้ำ ยังมีกัปตันคนเหล็กอย่าง ‘รอย คีน’ คอยเก็บกวาดหน้าแผงแบคโฟร์ให้ จึงไม่ต้องอธิบายกันมากกว่า

แนวรับของทีมในตอนนั้น แข็งแกร่งถึงเพียงใด ส่วน ยอร์ค ที่มาจับคู่กับ แอนดี้ โคล ในแดนหน้า ก็ทำผลงานได้เข้าขาลงตัวกันอย่างสุด ๆ โดยคู่หูนิลกาฬมหาประลัย พากันกระซวกตาข่ายรวมกันได้มากถึง 53 ประตูในทุกรายการ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

มาเริ่มกันที่ถ้วยพรีเมียร์ลีก ‘เฟอร์กี้’ ต้องนำยูไนเต็ดคั่วแชมป์กับแชมป์เก่าอย่าง ‘อาร์เซนอล’ อริตัวฉกาจแห่งยุคที่มี ‘อาเซน เกนเกอร์’ คุมทัพ และนำทีมโดย ‘แพทริค วิเอร่า’ ซึ่งยุคนั้นทีมปืนใหญ่รายล้อมไปด้วยนักเตะที่ทั้งแข็งแกร่งและมีคุณภาพ สไตล์ฟุตบอลสวยงาม มีประสิทธิภาพสูง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ปีศาจแดงยังฟอร์มลูกผีลูกคน เข้าช่วงคริสต์มาสโดยอยู่อันดับ 3 และแพ้ไปแล้ว 3 นัด และคงไม่มีใครคาดคิดว่า 3 นัดดังกล่าว จะเป็นความพ่ายแพ้ 3 นัดสุดท้ายในฤดูกาลนั้น ก่อนจะกรุยทางสู่จุดสูงสุดของสโมสร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ตารางคะแนนในตอนนั้น เรียกได้ว่าขี่คอกันยันนัดสุดท้าย โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของต้นเดือนพฤษภาคม อาร์เซนอลก็ยังคงฟอร์มแกร่ง เบียดยูไนเต็ดตกไปอยู่อันดับ 2 ก่อนที่ปีศาจแดงจะมาใส่เกียร์หมาเอาช่วงโค้งสุดท้าย 3 นัดก่อนปิดฤดูกาล แซงกลับขึ้นจ่าฝูงได้หวุดหวิด มีแต้มมากกว่า 1 แต้ม มีลูกได้เสียมากกว่าเพียง 1 ลูก เถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จ

ยังมีข่าวสารวงการฟุตบอลอื่นๆอีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด