‘คอสตินญ่า’ อดีตนักเตะแดนฝอยทอง ได้ออกมาปกป้อง ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ ที่ต้องมานะบากบั่นเพียงใด กว่าจะมายืนถึงตรงจุดนี้ และกล่าวโทษถึงคนที่หมันไส้สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ว่า ชีวิตจริงคงเป็นพวก ‘ขี้อิจฉา’ ไปวัน ๆ
สำหรับคนที่สงสัยว่า ‘คอสตินญ่า’ คือใคร ? เขาคือหนึ่งในนักเตะของ เอฟซี ปอร์โต้ ที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสร แชมป์ที่แจ้งเกิดสุดยอดกุนซือของโลกอย่าง ‘โจเซ่ มูรินโญ่’

โดยคอสตินญ่านั้น ก็เป็นหนึ่งในแฟนบอลตัวยงของคริสเตียโน่ โรนัลโด้และก็รู้ดีว่า CR 7 ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบในโลกโซเชียลอยู่บ่อยครั้ง พวกคนเหล่านั้นพยายามปลุกปั่นภาพลักษณ์ว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้คือนักเตะที่เย่อหยิ่ง ทะนงตน ชอบหงุดหงิดและโวยวายเพื่อนร่วมทีมยามเล่นไม่ได้ดังใจ

โดยคอสตินญ่านั้น ได้เผยว่าสตาร์ทีมชาติโปรตุเกสมีคาแรคเตอร์แบบนี้มาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ซึ่งหากใครได้รู้ถึงตนที่แท้จริงของเจ้าตัวจะทราบดีว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้คือบุคคลที่นอบน้อมถ่อมตนคนหนึ่ง พร้อมเรียนรู้ในทุกวิถีทางที่กว่าจะกรุยหนทางให้ตัวเองประสบความสำเร็จจนมายืนจุดที่ยืนอยู่ในทุกวันนี้ ตั้งแต่สมัยยังค้าแข้งอยู่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด จนมาอยู่ในวัย 35 ปีที่ค้าแข้งอยู่ในอิตาลีกับยูเวนตุส ก็ไม่ได้ทำให้ไฟในความท้าทายของเขามอดลงไปแต่อย่างใด
“คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ซ้อมอย่างหนักเพื่อความเป็นที่หนึ่ง
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ซ้อมอย่างหนักเพื่อความเป็นที่หนึ่งเหนือกว่านักเตะทุกคนบนโลก ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นนักเตะที่ให้ความเคารพต่อผู้อาวุโสอยู่เสมอ

โรนัลโด้มักจะมีคำถามอยู่ตลอดเวลาเพื่อพัฒนาตนเองอยู่ตลอด โดยเห็นผู้คนรอบข้างทุกคนเป็นดังครูที่เขาพร้อมจะเข้าไปถามอะไรก็ตามที่จะทำให้เขาเป็นนักเตะที่ดีขึ้น ในเวลาที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ถูกแต่งตั้งให้รับมอบหมายเป็นกัปตันทีมชาติ คือวินาทีที่เขาถูกเพ่งเล็งจากคนรอบข้างและสื่อว่า เนี่ยนะ ! คือคนที่เป็นผู้นำ แต่สุดท้าย CR 7 ก็ตอกกลับคำวิจารณ์เหล่านั้นด้วยการพาโปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 เอาชนะยอดทีมอย่างทีมชาติฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศช่วงต่อเวลาพิเศษ
โรนัลโด้ คือคนที่มีความมุมานะตั้งแต่เด็ก โดยหากใครพูดถึงนักเตะคนอื่นว่าเก่งกว่าเขา เขาจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ใครกันแน่คือ ‘ของจริง’

จุดเปลี่ยนผ่านของสตาร์ทีมชาติโปรตุเกส คือในช่วงที่เขาได้รับการเพาะบ่มโดยบรมกุนซืออย่างท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ภายใต้ชายคาของโอลแทรฟฟอร์ด ที่นี่สอนให้เขารู้ว่าตอนไหนเลี้ยง, ผ่านบอล หรือทำประตู ก่อนที่จะผงาดคว้ารางวัลบัลลงดอร์หนแรกในปี 2008 และอีก 4 ครั้งในปี 2013, 2014, 2016 และ 2017
ยังมีการวิเคราะห์บอลและข่าวสารวงการฟุตบอลอื่นๆอีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด