เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ระบุทีมต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดหลังล่าสุดพวกเขาบุกพ่าย อาร์เซน่อล 1-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
“หงส์แดง” ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย พบกับความพ่ายแพ้อีกครั้งหลังบุกไปโดน “ปืนใหญ่” แซงเอาชนะ 1-2 โดยพวกเขาได้ประตูออกนำไปก่อนจาก ซาดิโอ มาเน่ นาที 20 ทว่าเจ้าถิ่นมาฉวยโอกาสได้จาก 2 ความผิดพลาดของลูกทีม คล็อปป์เริ่มจากลูกแรก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่จ่ายคืนหลังพลาดให้ อเล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ ฉกไปยิง นาที 32
และอีกลูกคือการที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เตะเปิดเกมพลาดให้ ลากาแซ็ตต์ เลี้ยงไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ รีสส์ เนลสัน ยิงเข้าไปง่ายๆในนาที 44 พร้อมเป็นประตูชัยในเกมนี้
จากผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นส่งผลให้ ลิเวอร์พูล หยุดอยู่ที่ 93 คะแนนจาก 36 เกม หมดโอกาสทำสถิติเป็นแชมป์ที่โกยคะแนนได้มากที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเคยทำไว้ 100 คะแนนเป็นที่เรียบร้อย หลังเหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 เกม และเหลือแต้มให้เก็บ 6 คะแนน
“คล็อปป์” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของลูกทีม
หลังเกมดังกล่าว คล็อปป์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของลูกทีมว่า “เกมนี้เราทำดีกันมาตลอด และเป็นเกมที่ดี ทว่า อาร์เซน่อล มีแค่สองครั้งที่พวกเขาทำประตู และพวกเขาทำได้ โดยมันเป็นสองครั้งที่เราเสียสมาธิอย่างมาก และพวกเขาก็ลงโทษเราได้ทั้งสองครั้งเลย แน่นอน อาร์เซน่อล มีโอกาสยิงประตูทั้งเกมเพียง 2 ครั้ง ซึ่งถ้าเทียบกับเราแล้วมันน้อยมาก ทว่าฟุตบอลนั้นตัดสินกันที่ประตู ซึ่งพวกเขาก็เป็นฝ่ายที่สมควรได้รับชัยชนะ โดยเราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้ เพราะเราเกิดความผิดพลาดขึ้นทุกซีซั่น นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอล และมันก็มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเอาไว้เกิดขึ้นได้ ซึ่งเกมนี้เป็นอีกเกมที่เราผิดพลาด”
“ส่วนจังหวะผิดพลาดของ ฟาน ไดค์ นั้น แน่นอนไม่มีใครอยากจะผิดพลาด ทว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้ไม่สามารถกลบความความยอดเยี่ยมของเขาตลอดที่ทำตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา” คล็อปป์กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ฟาน ไดค์ ระบุถึงความผิดพลาดของตัวเองว่า “ประตูที่พวกเขาได้ทั้ง 2 ลูกนั้นไม่ควรจะมีขึ้น แต่เราก็มอบของขวัญให้กับพวกเขา แน่นอนมันเป็นความผิดของผมที่ก่อความผิดพลาดในจังหวะนั้น และผลลัพธ์ที่ออกมาคือความพ่ายแพ้”
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ ลิเวอร์พูล คือการเปิดสนาม แอนฟิลด์ พบกับ เชลซี อีกหนึ่งทีมในกลุ่มท็อปโฟร์ ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ และในเกมดังกล่าวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมีพิธีการมอบถ้วยแชมป์ให้กับ คล็อปป์และลูกทีมอย่างเป็นทางการด้วย
ยังมีการวิเคราะห์บอลและข่าวสารวงการฟุตบอลอื่นๆอีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด
