น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ฉายาเจ้าป่า ที่ตอนนี้รอวันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และยังรำลึกถึง ไบรอัน คลัฟ ผู้ล่วงลับ

พรีเมียร์ลีก วงในบอลนอก
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

ไบรอัน คลัฟ ได้จารึกชื่อของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บนถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ 2 ปีติดต่อกัน

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้รำลึกถึง คลัฟ การซ้อมทีมวันแรกในการโชว์พาวด้วยการแขวะลูกทีมว่าทิ้งเหรียญแชมป์ลงถังขยะซะ เพราะที่ได้มามันไม่ขาวสะอาด นี่คือประโยคแรกในการคุมทีม ยูงทอง ลงซ้อมมื้อแรก และนั่นก็เปรียบเสมือนการเอาเชือกไปมัดคอตัวเองตายใต้ต้นตะขบ เพราะนักเตะที่ยังผูกพันกับกุนซือคนเก่าอย่าง ‘เรวี่’ ออกลูกไม่พอใจจนเกิดคลื่นใต้น้ำ

                และก็ดังว่า ไบรอัน คลัฟ ได้นั่งเก้ากี้ยูงทองอยู่เพียง 44 วัน ฝากผลงานสุดอลังการ ชนะ 1 จาก 6 นัด รั้งอันดับ 4 ของตาราง (นับจากท้าย) ก่อนจะถูกปลดและได้รับเงินชดเชยราว ๆ 98,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มากในยุคนั้น

                กราฟชีวิตของ ‘คลัฟ’ ดูเหมือนจะดิ่งเหว แต่ช่วงเวลา 3 เดือนที่เขาได้ทบทวนตัวเอง ก็มีข้อเสนอเข้ามาให้คุมทีมเล็ก ๆ อย่าง ‘น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์’

‘เจ้าป่า’ เป็นทีมระดับเดียวกับ ดาร์บี้ ในช่วงก่อนที่ คลัฟ จะเข้าไปยกระดับ คือวนเวียนอยู่ลีกรองในดิวิชั่น 2 ไม่เคยสัมผัสแชมป์ลีกสูงสุด และแชมป์ระดับเมเจอร์ต้องย้อนถามหากันถึงปี 1959 กันเลยทีเดียว ในการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ

                คนเก่งยังไงคือคนเก่ง เขาพาทีมเล็ก ๆ อย่าง ‘ฟอเรสต์’ เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกสูงสุดโดยใช้เวลาแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น และดาวซัลโวที่ยิงพาทีมเลื่อนชั้นก็คือ ‘ปีเตอร์ วิธ’ และหากจะคุ้นชื่อก็ไม่แปลก เขาคือคนเดียวกับที่เคยคุมทีมชาติไทยนั่นเอง

                คลัฟ ยังไม่หยุดยั้งความป่าเถื่อนแค่นั้น เขาพาทีม เจ้าป่า เถลิงแชมป์ลีกสูงสุดได้ทันทีหลังจากที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาล 1977/78 ทิ้ง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล อยู่ถึง 7 แต้ม ส่งผลให้เขาเป็นเพียง 1 ใน 4 กุนซือที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับ 2 สโมสร

                คลัฟ จัดการสร้างเทพนิยายของตัวเองต่อ ด้วยการจารึกชื่อของ ‘น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์’ ลงบนถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ (แชมเปี้ยนส์ ลีก ปัจจุบัน) ถึง 2 ปีติดต่อกัน

หลังสร้างชื่อกระฉ่อนไปคลุ้งย่านน้ำยุโรป ทีมเจ้าป่า ก็ประคองตัวเองเป็นทีมระดับท็อปอยู่ประมาณทศวรรษ ก่อนจะค่อย ๆ ลงจากจุดสูงสุดไปตามกาลเวลา โดยแชมป์ระดับเมเจอร์ที่พวกเขาได้ล่าสุด ต้องย้อนไปในปี 1989/90 ด้วยการคว้าแชมป์ถ้วยเล็กที่สุดอย่างแชมป์ลีก คัพ

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

นับไปสองปีหลังจากนั้น พวกเขาตกลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 เดิม ก่อนจะกราฟชีวิตของทีมตกอย่างหนักร่วงไปเล่นลีกวันกันเลยทีเดียวช่วงหลังจากนั้น ฟอเรสต์ ก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ระหว่าง ดิวิชั่น 1 กับ พรีเมียร์ และครั้งสุดท้ายที่เจ้าป่าได้โลดเล่นในลีกสูงสุด ต้องย้อนกลับไปถึง 21 ปีที่แล้ว ในฤดูกาล 1998/99

                ‘พรีเมียร์ลีก’ จึงเป็นความฝันอันสูงสุดในตอนนี้สำหรับแฟนบอลเจ้าป่า เพราะจากทีมที่เคยอยู่จุดสูงสุด ตกต่ำแค่ปีเดียวก็เจ็บปวดแล้วสำหรับแฟนบอลที่รักในสโมสร และการรอคอยนี้ก็กินเวลามานานกว่า 2 ทศวรรษเข้าให้แล้ว

ยังมีการวิเคราะห์บอลและข่าวสารวงการฟุตบอลอื่นๆอีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด

Sai