เนย์มาร์ ถือเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวอันดับสองของทีมชาติบราซิลไปแล้ว สำหรับเนย์มาร์ที่ยิงประตูที่ 64 ให้กับทีมชาติตัวเอง หลังจากที่ซัดแฮตทริคไปได้ในเกมที่ต้องเจอกับเปรูในช่วงกลางเดือนตุลาคม แต่ทว่าในเกมนั้นเองเจ้าตัวก็โดนกองหลังคู่แข่งอย่างคาร์ลอส แซมบราโน่วิจารณ์ว่าเขาเป็นเพียงตัวตลกในสนามเท่านั้น หลังจากดาวยิงชาวบราซิลมักจะพุ่งล้มเอาฟาล์วเมื่อถูกปะทะในเกมที่จบด้วยสกอร์ 4-2 นั่นเอง
เนย์มาร์ ยิงประตูที่ 64 ให้กับทีมชาติตัวเอง หลังจากที่ซัดแฮตทริคไปได้ในเกมที่ต้องเจอกับเปรูในช่วงกลางเดือนตุลาคม
ในเกมที่เปรูสามารถนำไปก่อนในนาทีที่ 4 จากอันเดร คาร์ริลโล่และเรนาโต้ ทาเปียในนาที 59 แต่ทว่าจากจุดโทษของเนย์มาร์ถึงสองประตู รวมทั้งลูกยิงปิดกล่องในช่วงท้ายเกมทำให้ทางเปรูต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด โดยในช่วงใกล้หมดเวลาครึ่งหลังนั้นทีมเปรูจะต้องเหลือผู้เล่นเพียง 9 คนเท่านั้นจากการโดนไล่ออกของคาร์ลอส แซมบราโน่และคาร์ลอส ซาเซด้าที่คนแรกจะโดนการตัดสินจากวีเออาร์ให้ไล่ออกในภายหลัง
สิ่งที่คาร์ลอส แซมบราโน่ออกมาพูดกับสื่อ หลังจากที่ต้องถูกไล่ออกนั่นก็คือ เขายอมรับว่าเนย์มาร์นั้นเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพอย่างมาก แต่เขาก็เป็นตัวตลกในสนามเช่นกันเพราะการที่เขารู้ว่ากำลังจะทำอยู่บนสนามและตั้งใจพุ่งล้มเอาฟาล์วทั้ง ๆ ที่มีการปะทะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาทิ้งตัวลงกรอบเขตโทษถึงห้าครั้งแถมยังได้จุดโทษไปอีกถึงสองลูก แม้ว่าจะมีวิดีโอช่วยตัดสินแต่ทว่าด้วยชื่อของบราซิลก็คงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกด้วย
แม้ว่าข้อครหาของเนย์มาร์กับการพุ่งล้มจะมีมาตลอดอาชีพของเขาอยู่แล้ว รวมถึงพฤติกรรมนอกสนามที่ถูกวิจารณ์อยู่เสมอ แต่ทว่าสถิติการยิงถึง 64 ประตูในนามทีมชาติก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับเช่นกัน อีกทั้งรุ่นพี่อย่างโรนัลโด้ยังต้องชื่นชมที่โดนทำลายสถิติของตัวเองไปได้นั่นเอง
ยังมีข่าววิเคราะห์บอลและ ข่าวสารวงการฟุตบอล อื่น ๆ อีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด และ Project Big Picture (PBP) ลิเวอร์พูล-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือทีมลีกรอง
