ลิเวอร์พูล กลายเป็นบิ๊กแมตช์ประจำนัดเปิดฤดูกาลไปโดยปริยาย เมื่อแชมป์พรีเมียร์ลีกปีล่าสุดอย่างลิเวอร์พูล โคจรมาพบกับทีมน้องใหม่หน้าคุ้นเคยอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นไปเล่นเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพ 16 ปี ก่อนกลับมาในฐานะแชมป์ พร้อมกับการจับตามองกลยุทธ์ของบิเอลซ่า จะสมฉายา “ไอ้คนบ้า” อย่างที่มีคนกล่าวอ้างหรือไม่
ลิเวอร์พูล โคจรมาพบกับทีมน้องใหม่หน้าคุ้นเคยอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นไปเล่นเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพ 16 ปี
เกมการแข่งขันเริ่ม ลิเวอร์พูลได้ประตูนำเร็วจากจุดโทษ ซึ่งแน่นอนว่าใคร ๆ ก็คาดเดาว่าเจ้าบ้านยิงยับแน่ ๆ แต่กลายเป็นว่าความผิดพลาดในแนวรับ ของเทรนด์กับโกเมช ทำให้ลีดส์ กลับคืนสู่เกมเพียงไม่กี่นาที
แนวรับทั้งสองทีมมีความผิดพลาด เริ่มจากผู้เล่นลีดส์ที่เสียสมาธิถึง 2 ลูก คือ ลูกขึ้นนำ 2-1 ผู้เล่นลีดส์เสียสมาธิจนฟานไดค์ได้โขกโล่งๆ ส่วนลูก 3-2 ผู้เล่นลีดส์ระมัดระวังฟานไดค์มากขึ้น ด้วยการล้อมไว้ทุกด้าน แต่ดันเปิดพื้นที่แถวสองให้เจ้าบ้าน แถมซาลาห์ยิงได้ดีด้วย
ส่วนแนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดทุกประตูที่เสีย ซึ่งนอกจากประตูแรกที่กล่าวไป ประตูที่ 2 เกิดจากความประมาทของฟานไดค์ ที่พยายามจะดีดบอลต่อให้โรเบิร์ตสัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่านี่คือความละเอียดของบิเอลซ่าที่สั่งลูกทีมให้วิ่งตามสุดทางซึ่งยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน เพราะหากพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ฟานไดค์เล่นลูกลักษณะนี้บ่อยครั้งหากไปดูวิดิโอเกมการแข่งขันก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีใครวิ่งมากดดันในลักษณะนี้มาก่อน ส่วนลูกที่ 3 ไวนัลดุมตามไม่สุด เพราะสื่อสารไม่เข้าใจกับโจนส์
แต่เกมนี้ลิเวอร์พูลมีโชค จากลูกฟาวล์ในเขตโทษถึงสองลูก ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนจนคว้า 3 แต้มในเกมนี้ แต่อาจไม่สวยงามนักในแง่รูปเกม
บทสรุปเกมนี้ ลีดส์มาสู้ได้ดี ด้วยระบบ 4-1-4-1 แล้วใช้ยุทธวิธีรุกมารุกกลับ ทำให้เกมออกมาสนุกและสูสี ปัญหาที่เห็นชัดคือการแกะเพรสซิ่งลิเวอร์พูลไม่ค่อยออก ทำให้ยุทธวิธีที่กล่าวมาอาจตอบโต้ได้ไม่เต็มที่ขณะที่ในภาพรวม ทั้งสองทีมมีความผิดพลาดในแนวรับ โดยฝั่ง ลิเวอร์พูลผิดพลาดน้อยแต่ถึงขั้นเสียประตู
ส่วนฝั่งของ ลีดส์ ผิดพลาดผสมกับความไม่ละเอียด ทำให้เสียถึง 4 ประตู ดังจะเห็นได้จากบทสัมภาษณ์หลังเกมที่บิเอลซ่าไม่ค่อยพอใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควร เพราะการลงเล่นในพรีเมียร์จะมาพลาดบ่อย ๆ ไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งหากไม่มีความผิดพลาด ลีดส์มีสิทธิ์คว้า 3 แต้มออกไปได้เลย ถึงกระนั้นแม้ว่าจะแพ้ แต่ลีดส์ก็มีอนาคตสดใส ที่มีแววจะอยู่รอดและทำอันดับได้ดีเสียด้วย
ยังมีข่าววิเคราะห์บอลและ ข่าวสารฟุตบอล อื่น ๆ อีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด และ มิเกล อาร์แตต้า ที่ปัจจุบันทำผลงานเกมรุก ได้ห่วยแตกที่สุดในรอบ 22 ปี
