ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลของ “เบรเมน แฟร้งค์ เบามันน์” ออกมายอมรับแบบแมนๆ เลยว่าทีมของเขาได้รับการติดต่อจากวูล์ฟจริงเรื่องการซื้อตัว “มิลอต ราชิก้า”
เบรเมนทีมอันดับ 16 ในบุนเดสลีกาที่รอดพ้นการตกชั้นเมื่อเกมกลางสัปดาห์หลังจากที่บุกไปเสมอไฮเด้นไฮม์ได้ 2-2 ทำให้ประตูรวมอยู่ที่ 2-2 และเบรเมนชนะด้วยผลต่างประตูทีมเยือน
รายงานจากสปีเก้ล เปิดเผยว่าวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์สทีมอันดับที่ 6 ของพรีเมียร์ลีกอยากได้ นักเตะวัย 24 ปีรายนี้หลังจากที่เขายิง 8 ประตูและ 7 แอสซฺสตน์ในการพาเบรเมนอยู่รอดในบุนเดสลีกาต่อไป แต่ว่าก็ต้องแข่งกับดอร์ทมุนด์ด้วยที่ต้องการนักเตะรายนี้ไปร่วมทีมเช่นกัน
เบามันน์กล่าวแบบยอมรับเลยว่าอาจจะจำเป็นต้องขายราชิก้าออกไป และเสริมทีมเข้ามาใหม่เพื่ออนาคตเพราะว่านักเตะเป็นที่ต้องการของทีมชั้นนำในยุโรป มีการติดต่อเข้ามาจากหลายทีมและคาดการณ์กันว่ามีความเป็นไปได้มากกว่า 80% ที่ราชิก้าจะไมได้เป็นนักเตะของแวร์เดอร์ เบรเมนในซีซั่นหน้า
ไลป์ซิก ต้องการ “ราชิก้า” นักเตะทีมชาติโคโซโซรายนี้
คิกเกอร์สื่อหนังสือพิมพ์ของเยอรมันเปิดเผยเช่นกันว่าทีมที่เข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนัลในแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างไลป์ซิก ต้องการราชิก้า นักเตะทีมชาติโคโซโซรายนี้และพร้อมจ่ายเงินกว่า 35 ล้านยูโรเป็นค่าตัวของนักเตะรายนี้
เบรเมน จำใจต้องขายนักเตะออกไปหากว่าเขาไม่มีใจกับทีม แต่ว่าสัญญาได้ระบุไว้แล้วว่าหากว่าทีมไหนจ่ายเงินในค่าตัวของมิล็อต ราชิก้ามากกว่าทีมนั้นก็จะได้ตัวเขาไปร่วมทีม
ซึ่งราชิก้าติดทีมชาติโคโซโวมาแล้วกว่า 27 เกม และยิงประตูได้กว่า 11 ประตูแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม 8 ประตูนั่นแสดงให้เห็นว่าราชิก้านักเตะกองหน้าของโคโซโวมีผลงานพอใช้ได้เลยทีเดียว
เขายังได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 15 เมื่อมีการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมได้คะแนน 55 คะแนน เท่ากับแซรจ์ กนาบรี้ของบาเยิร์น มิวนิคและได้คะแนนน้อยกว่าไค ฮาแวร์ทซ์สองแต้มเท่านั้น
เขาได้ย้ายมาเล่นที่เบรเมน ตั้งแต่ปี 2018 ลงสนาม 63 นัดยิงได้ 18 ประตูนับว่าเป็นนักเตะที่เก่งกาจคนหนึ่งของวงการฟุตบอลโคโซโวเลยทีเดียว ซึ่งเขาได้ลงเล่นให้แอลเบเนียมาก่อน แต่เมื่อโคโซโวมีการจัดตั้งประเทศเขาได้ย้ายมาเป็นนักเตะทีมชาติโคโซโวด้วย
และโปรไฟล์ของราชิก้าก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปี 2015-2018 เคยเล่นในเอเรดิวิซี่ลีกของฮอลแลนด์ ลงสนาม 83 นัดยิงได้ 13 ประตู แต่พอย้ายมาเล่นที่เยอรมันเขายิงประตูได้มากกว่าเดิม 5 ประตู
ยังมีข่าววิเคราะห์บอลและข่าวสารวงการฟุตบอลอื่นๆอีกมากมายให้ติดตามหากไม่อยากพลาด
